วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2562

ข่าวที่ 1

เศร้า! ญาติรับศพเหยื่อไพโรเจน 'เอสซีบี' 10 ขวบกำพร้า สูญเสียพ่อและแม่


          ญาติผู้เสียชีวิตจาก เหตุสารเคมีรั่วที่ เอสซีบี ปาร์ค ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เผย ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ มีเพียงโทรศัพท์ติดต่อมา ขณะที่เด็ก 10 ขวบ กำพร้า ต้องสูญเสียทั้งพ่อและแม่ ...
          วันที่ 15 มี.ค. ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ครอบครัวของนายสายฝน แล่นโคตร และครอบครัวของ น.ส.กรรณิการ์ สินศิริ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุระบบอัคคีภัยขัดข้องภายในอาคาร เอสซีบี ปาร์ค ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
          น.ส.คำแสน อาของนายสายฝน กล่าวว่า ในวันนี้ตนพร้อมครอบครัว ได้เดินทางมาเพื่อติดต่อขอรับศพนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเป็นวันที่ 2 แล้ว แต่เอกสารใบมรณบัตร จากทางสำนักงานเขตจตุจักรยังไม่สามารถออกให้ได้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังไม่ให้บันทึกประจำวันมาเป็นเอกสารเพื่อรับรองการเสียชีวิต ส่วนความช่วยเหลือจากเจ้าของผู้รับเหมา และธนาคารไทยพาณิชย์ ได้โทรศัพท์มาติดต่อแล้ว โดยให้สำรองออกค่าใช้จ่ายไปก่อน พร้อมทั้งยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ จำนวน 1 แสนบาท ตามที่ธนาคารประกาศตกลงไว้
           ส่วนการทำงานของ นายสายฝน ตนไม่ทราบว่าทำงานอยู่ในบริษัทใด และในตำแหน่งอะไร แต่ยอมรับว่านายสายฝน เคยมีประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับระบบป้องกันอัคคีภัย และเคยได้ไปทำงานในต่างประเทศ นอกจากนี้ นายสายฝน ยังเป็นสามีของ น.ส.กรรณิการ์ สินศิริ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส โดยคบกันมามากกว่า 10 ปี และมีบุตรสาววัย 10 ขวบ จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์สลดดังกล่าว
          น.ส.คำแสน กล่าวอีกว่า เรื่องเงินช่วยเหลือจำนวน 1 แสนบาท ที่ทางผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะเข้ามาให้การช่วยเหลือนั้น ตนคิดว่าไม่เพียงพอต่อการสูญเสียและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เนื่องจากหลังจากนี้ตนต้องเป็นผู้เลี้ยงดูแลบุตรสาวของหลานชายเอง
          นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ แสนสิริ น้องชายของ น.ส.กรรณิการ์ กล่าวว่า ทางครอบครัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะบุตรสาวของทั้งสองรายที่ต้องมากำพร้าบิดา-มารดา ส่วนการทำงานของพี่สาว ก็ไม่แน่ใจว่ามีความรู้เกี่ยวกับระบบป้องกันอัคคีภัยหรือไม่ แต่หากจะต้องมาทำงานในลักษณะนี้ บริษัทผู้รับเหมาควรจะต้องฝึกหรืออบรมพนักงานให้มีความรู้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าของบริษัท และธนาคารแต่อย่างใด ซึ่งเพียงได้รับการติดต่อจากธนาคารไทยพาณิชย์ ว่าจะมามอบเงินช่วยเหลือรายละจำนวน 1 แสนบาท ในช่วงบ่ายของวันนี้ (15 มี.ค.)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น