วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2562

ข่าวที่ 7          

กระบะบรรทุกสารเคมีรั่วไฟลุก! 

คนขับจอดรถหนีตาย-คาดเคมีรั่วเจอความร้อนจึงปะทุกระบะบรรทุกสารเคมีรั่วไฟลุก! คนขับจอดรถหนีตาย-คาดเคมีรั่วเจอความร้อนจึงปะทุ


กระบะบรรทุกเคมีน้ำหนัก 3 ตัน ไฟลุกท่วมกลางถนน คนขับวิ่งหนีตาย เผยก่อนเกิดเหตุมีน้ำรั่วออกมาจากกระบะบรรทุก จากนั้นมีควันพุ่งตามมา ก่อนจอดรถเจอไฟลุกท่วม คาดเคมีทำปฏิกิริยากับโลหะ
(15 มี.ค. 62)  ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเกิดเหตุระทึก เมื่อจู่ๆ มีรถกระบะโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน กทม. ที่บรรทุกสารเคมีHYDROGEN PEROXIDE 50% จำนวน 100 แกลลอน น้ำหนัก แกลลอนละ 30 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 3 ตัน วิ่งมาตามถนนสุขุมวิทฝั่งมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ใกล้กับสามแยกปู่เจ้าสมิงพราย ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรราการ
โดยได้เกิดไฟลุกไหม้บริเวณช่วงท้ายกระบะที่มีหลังคาอะลูมิเนียมปิดทึบ ทำให้รถกระบะคันดังกล่าวเสียหาย และมีถังเคมี HYDROGEN PEROXIDE 50% บางส่วนเสียหาย
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลสำโรงเหนือ ใช้รถน้ำ 1คัน ฉีดน้ำสกัดประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ แต่เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นถนนสายหลัก จึงทำให้การจราจร บนถนนสุขุมวิท ติดขัดยาวกว่า 3 กิโลเมตร
ทางเจ้าหน้าที่ จึงต้องรีบเคลื่อนย้ายรถบรรทุกเคมีดังกล่าวออกจากผิวการจราจร ไปอยู่ในที่ปลอดภัย นอกจากนี้ที่เกิดเหตุ ยังมีสารเคมีรั่วออกจากแกลลอน หยดลงบนพื้นถนน เกิดควันสีขาวเข้ม เมื่อเข้าใกล้จะมีอาการแสบ และคันที่ผิวหนังด้วย ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงกันบุคคลไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด
นายเจนภพ อายุ 24 ปี คนขับรถกระบะเล่าว่า ตนรับเคมีทั้งหมดมาจาก ซอยสุขสวัสดิ์ 49 นำไปส่งลูกค้าจังหวัดจันทบุรี โดยระหว่างทาง ตนเห็นมีของเหลวไหลจากหลังคากระบะลงมาใส่กระจกหน้ารถ ซึ่งตนก็เริ่มสงสัยว่า คือ น้ำอะไร แต่ก็ยังขับรถไปต่อ
แต่ขับต่อไปได้เพียงเล็กน้อยก็มีควันพุ่งออกมาจากตู้ทึบด้านหลัง ตนจึงจอดรถลงไปเปิดประตูด้านหลัง ก็มีควันพุ่งสวนออกมาอย่างแรงและเกิดเปลวไฟขึ้นมาทันที ตนจึงรีบวิ่งหนีตายออกไปจากรถ และโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ และโทรศัพท์แจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบ
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากเคมีที่รั่วออกมาทำปฏิกิริยากับโลหะและอากาศ จนเกิดความร้อนแล้วติดไฟขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ว่า เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ พร้อมกับจะเชิญทางผู้ว่าจ้าง และเจ้าของสารเคมีมาสอบสวน ว่าเป็นสารเคมีอันตรายหรือไม่ มีการขนส่งที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
และตรวจสอบว่า สารเคมีดังกล่าวเป็นสารเคมีอันตรายเข้าข่ายที่จะต้องแสดงสัญลักษณ์วัตถุอันตรายข้างรถหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น